iBALLTHAI

← ย้อนกลับ
‘บวรศักดิ์’เล็งรวม 3 ร่าง‘แก้รธน.’ เร่งหารือปมประชามติ เชื่อคนไทยฉลาดไม่สับสน‘บัตร 4 ใบ’

‘บวรศักดิ์’เล็งรวม 3 ร่าง‘แก้รธน.’ เร่งหารือปมประชามติ เชื่อคนไทยฉลาดไม่สับสน‘บัตร 4 ใบ’

Published: 30 กันยายน 2025 เวลา 8:23

บวรศักดิ์เผยจ่อถก 3 ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน-สว.เดินหน้าแก้รธน. เล็งรวม 3 ร่างให้ทุกฝ่ายยอมรับ ชี้เร่งหารือปมประชามติพรรคการเมือง-สว.-กกต.ร่วมตั้งคําถามให้อํานาจกสทช.กําหนดประชาสัมพันธ์สื่อรัฐ เชื่อคนไทยฉลาดไม่สับสนกาบัตร 4 ใบ30 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโฌ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการทําประชามติหลังแถลงนโยบายรัฐบาล ประชาชนอาจกาบัตรเลือกตั้ง พร้อมกัน 4 ใบ ว่า ที่ตนพูดในสภาเป็นความประสงค์ของรัฐบาลว่ารัฐบาลทําคนเดียวไม่ได้ ข้อแรกคือรัฐบาลต้องปรึกษากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะตามกฎหมาย เป็นอํานาจหน้าที่ของ กกต. โดยเฉพาะ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รวมอยู่ด้วย รัฐบาลก็ต้องปรึกษาพรรคประชาชน (ปชน.) พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคภูมิใจไทย(ภท.) และพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา เพราะรัฐบาลทําคนเดียวไม่ได้นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องไทม์ไลน์นั้น นายกฯ แถลงไว้ว่าจะยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค. 69 ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งไม่เร็วกว่า 45 วัน และไม่ช้ากว่า 60 วัน ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กําหนดไว้แล้วว่า ถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเพิ่มหมวด 15/1 เรื่องการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเอาไปออกเสียงประชามติ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็บอกแล้วว่าต้องทํา 2 ครั้งนายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ครั้งที่ 1 คือ ถามว่า จะจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ 2. เห็นชอบด้วยกับวิธีการและเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งมาหรือไม่ แต่กฎหมายประชามติในวันนี้บอกว่าประชามติจะทําได้ไม่เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้ากว่า 120 วัน นับแต่วันที่ประธานสภาส่งเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีและความซับซ้อนก็จะเกิดขึ้นอีก เพราะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ผ่านสภาไปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการทรงพิจารณา ซึ่งตรงนั้นเขาก็ปรับเวลาว่า ทําประชามติได้ไม่ก่อน 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน ตรงนี้แหล่ะที่ต้องทําไทม์ไลน์กันให้ดี ก็ยังพูดอะไรแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับร่าง พ.ร.บ. ประชามติ ที่สภาแก้ไปแล้วจะพระราชทานลงมา หรือว่าจะทรงลงพระปรมาภิไธยนายบวรศักดิ์ กล่าวว่า แต่ทั้งหมดก็คือความตั้งใจของรัฐบาล และรัฐบาลก็ต้องปรึกษากับพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ กกต. ให้ประชาชนคนไทย ซึ่งคิดว่าฉลาดมาก จะไม่สับสนกับบัตร 4 ใบ จําได้ไม่ยาก ตนยกตัวอย่างเช่น ได้ปรึกษากับบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย สมาชิกวุฒิสภา และ กกต. ว่า บัตรเลือกตั้งก็ให้ใช้บัตรปกติไม่ต้องมีสี แต่ถ้าบัตรประชามติให้ใช้บัตรสีเหลือง และถ้าเห็นชอบด้วยให้กาในช่องสีเขียว ถ้าไม่เห็นชอบให้กาในช่องสีแดง ซึ่งไฟเขียวไฟแดงทุกคนก็รู้จัก ไฟแดงหยุด สต็อป ไม่ต้องทํา ไฟเขียวแปลว่าไป ส่วนเอ็มโอยู กับกัมพูชาก็อย่างเดียวกัน ใช้กระดาษอีกสีหนึ่ง เช่น สีฟ้า อาจจะบอกว่าถ้าให้ยกเลิก อาจให้กาในช่องสีเขียว หากไม่ให้ยกเลิกให้กาในช่องสีแดงนายบวรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. สมาชิกรัฐสภาก็ให้ความเห็นว่าควรจะต้องมีการพูดคุยกันเพื่อให้แสดงความเห็นกันได้เต็มที่ ตนก็จะกราบเรียนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า เราควรขอความร่วมมือจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และให้บริษัท อสมท. และช่อง 11 จัดเวลาที่เท่าเทียมกันทุกวัน อันดับแรกคือชี้แจงให้ฟังในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่ามีเนื้อหาสาระอย่างไร และให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมีเวลาเท่ากัน ส่วนเรื่องเอ็มโอยูก็เช่นเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องชี้แจงก่อนว่าเอ็มโอยู ที่เอามาขอประชามตินั้นมีเนื้อหาอย่างไร และให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยใช้เวลาเท่ากัน ซึ่งรัฐบาลคงทําได้อย่างนี้นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนสื่อโซเชียลนั้น รัฐบาลแตะต้องไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเสรีภาพของแต่ละคน แต่ตนเชื่อว่าคนไทยฉลาด ถ้าเราอธิบายให้ฟังให้ชัดเจนและสามารถให้เขาแยกได้ว่า อันนี้เป็นเรื่อง การลงคะแนนเลือกตั้ง 2 ใบ อันนี้เป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ และอันนี้เป็นเรื่องเอ็มโอยู มันไม่มีปัญหาหรอกครับ และที่รัฐบาลต้องคิดอย่างนี้ก็เพราะว่า กกต. บอกว่าถ้าจัดแยกกันทําได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าทําได้ แต่ทําครั้งหนึ่ง 6 พันล้านบาท คือเลือกตั้ง 6 พันล้านบาท, แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 พันล้านบาท,และ เอ็มโอยูอีก 6 พันล้านบาท รวมเป็น 18,000 ล้านบาท แล้วเราจะเอาหรือ ถ้าทําหนเดียว 6 พันล้านบาท อาศัยความชัดเจนที่ กกต. ทําบัตรเลือกตั้ง และอาศัยการที่รัฐบาลชี้แจงผ่านสื่อให้ชัดเจน, อาศัยการที่ให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยสามารถแสดงออกได้อย่างเท่าเทียม คนไทยฉลาดเรื่องแค่นี้เขาทําได้แน่ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่บอกว่าการทําประชามติต้องหารือพรรคการเมืองทุกพรรคและ สว. มีการกําหนดเวลาไว้เบื้องต้นแล้วหรือยัง หรือต้องเร็วที่สุด นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า เวลานี้มี 3 ร่าง คือ ร่างของพรรคภูมิใจไทย, ร่างของพรรคประชาชน, และร่างของพรรคเพื่อไทย ต้องหารือกันให้เร็วที่สุดเพราะต้องอาศัยทั้งพรรคที่เป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงสมาชิกรัฐสภา เพราะรัฐธรรมนูญกําหนดไว้ชัดเจนว่าจะผ่านวาระ 3 ได้ ต้องได้เสียง สว. หนึ่งในสาม ต้องได้เสียงของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่น้อยกว่า 20% ก็ต้องหารือกัน เมื่อถามว่าจะมีความชัดเจนว่าจะใช้ร่างของพรรคไหนเป็นหลักหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาฯ ตนตอบไม่ได้ เมื่อถามว่าจะสามารถร่วมร่างกฎหมายเข้าด้วยกันได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์ ตอบว่า ธรรมชาติก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือ ทุกพรรคก็อยากให้ใช้ร่างของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องมาเจรจาพูดคุยประนีประนอมจนออกมาให้เป็นที่ยอมรับได้เมื่อถามว่าคําถามประชามติได้คิดไว้แล้วหรือยังว่าจะเป็นอย่างไร นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องปรึกษากัน เมื่อถามย้ําว่าสําหรับเรื่องรัฐธรรมนูญจะถามคําถามเดียวหรือสองคําถาม นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญพูดชัดว่าต้องถามสามครั้ง โดยครั้งที่หนึ่งและสองสามารถรวมกันได้ ไม่ใช่แห่งเดียวในโลกที่ทําแบบนี้ อย่างฝรั่งเศสก็เคยถามประชามติเดียว 2 คําถามมาแล้ว แต่ตัวคําถามจะตั้งอย่างไรต้องหารือกัน รัฐบาลทําฝ่ายเดียวไม่ได้ จริงอยู่ว่าเป็นอํานาจของรัฐบาล แต่ต้องขอความเห็นและความยินยอมพร้อมใจของสมาชิกรัฐสภา ที่สําคัญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีอํานาจตามกฎหมายเมื่อถามว่า มีคําถามไว้ในใจคร่าว ๆ หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า มีแล้ว แต่ยังไม่อยากพูดเมื่อถามอีกว่า หากได้คําถามแล้วต้องมาถามรัฐสภา หรือเป็นการหารือภายใน นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการประชุมภายใน เพราะอํานาจตั้งคําถามอยู่ที่ กกต. กับรัฐบาลจะปรึกษากัน เพราะประชามติ คนที่ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือรัฐบาล แต่คนที่ดําเนินการคือ กกต. ซึ่งรัฐบาลทําคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องถามสมาชิกรัฐสภาทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน, รัฐบาล, และ สว.-005 อ่านต่อ...