iBALLTHAI

← ย้อนกลับ
ศาลจําคุก 20 ปี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" คดีฉ้อโกงขายทองรออาญา 5 ปี

ศาลจําคุก 20 ปี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" คดีฉ้อโกงขายทองรออาญา 5 ปี

Published: 7 ตุลาคม 2025 เวลา 13:22

วันนี้ (7 ต.ค.2568) ศาลอาญา มีคําพิพากษาคดีหมายเลขดําที่ อทย.582/2567 ที่พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด โจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จํากัด จําเลยที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ความผิดฐานฉ้อโกง ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ความผิดต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคและพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง​โดยชั้นสืบพยาน บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ฯ, นายกานต์พล และ น.ส.กรกนก จําเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ​ศาลจึงมีพิพากษาว่า จําเลยทั้งสามมีความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับบริษัทจําเลยที่ 1 เป็นเงิน 25,000 บาท จําคุกจําเลยที่ 2-3 คนละ 3 เดือนและปรับคนละ 25,000 บาท ​ฐานร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความ เข้าใจผิดในแหล่งกําเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณหรือสาระสําคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นความเท็จหรือเกินความจริง ปรับบริษัทจําเลยที่ 1 เป็นเงิน 25,000 บาทจําคุกจําเลยที่ 2-3 คนละ 1 เดือน 15 วันและปรับคนละ 25,000 บาท​ฐานร่วมกันขาย สินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก แต่ฉลากหรือการแสดงนั้นไม่ถูกต้อง ปรับบริษัทจําเลยที่ 1 เป็นเงิน 25,000 บาท จําคุกจําเลยที่ 2-3 คนละ 1 เดือน 15 วันและปรับคนละ 25,000 บาท​ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวม 60 กระทง ให้ปรับจําเลยที่ 1 เป็นกระทงละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 600,000 บาท จําคุกจําเลยที่ 2-3 คนละ 6 เดือนและปรับคนละ 10,000 บาท รวมจําคุกจําเลยคนละ 360 เดือนและปรับคนละ 600,000 บาท​เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว เป็นปรับบริษัทจําเลยที่ 1 เป็นเงิน 675,000 บาท คงจําคุกจําเลยที่ 2-3 คนละ 20 ปี และปรับคนละ 675,000 บาท​พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามรายงานการตรวจพิสูจน์ทองคําของกลางของผู้เสียหายทั้ง 36 ราย ปรากฏว่าเป็นทองคําซึ่งมีค่าปริมาณทองคําในอัตราร้อยละ 99.99 ได้แก่ ผลปี่เซี่ยะ จี้คาบเหรียญทองคําใหญ่กลางและเล็ก จี้ท้าวเวสสุวรรณ จี้ตาไข่ทองคํา จี้ทองคํารูปหัวใจ สร้อยข้อมือตะกรุด ทองปี่เซียะรุ่น 1 ตัว สร้อยข้อมือหินหยกปี่เซียะ โดยมีส่วนประกอบอื่น เช่น ลูกปัดที่นํามาต่อเชื่อมกับตัวปี่เซียะเพื่อเป็นกําไลที่มีค่า ปริมาณทองคําเพียงร้อยละ 71-73 เศษ ดังนั้นเครื่องประดับทองคําที่จําเลยทั้งสามขายจึงไม่ใช่ทองคําปลอมหรือด้อยคุณภาพ เพียงแต่จําเลยทั้งสามกล่าวอ้างในการขายสินค้าระบุว่าเป็นทองคําร้อยละ 99.99 และมีของแถมเป็นทองคํา โดยภายหลังจําเลยทั้งสามสํานึกผิดจึงออกประกาศรับคืนสินค้าที่ขายไปดังกล่าวซึ่งมีผู้คืนสินค้ารวม 3,929 ราย มูลค่า 82,709,747 บาท และจําเลยทั้งสามได้รับและคืนเงินเต็มจํานวนแก่ผู้ซื้อแล้ว 1,610 ราย เป็นเงิน 57,023,860 บาทนอกจากนี้จําเลยทั้งสามยังวางเงินต่อศาลเพื่อคืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 36 รายเต็มจํานวนตามคําขอท้ายฟ้องของโจทก์แล้ว ถือได้ว่าจําเลยทั้งสามสํานึกผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายให้แก่ผู้เสียหายและผู้ซื้อสินค้าดังกล่าว อีกทั้งจําเลยที่ 2-3 ถูกคุมขังในระหว่างสอบสวนเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว เชื่อว่าจําเลยที่ 2-3 จะเข็ดหลาบ ไม่กระทําความผิดเช่นนี้อีกอีกทั้งไม่ปรากฏว่าจําเลยที่ 2-3 กระทําความผิดใดมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจําเลยที่ 2-3 กลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ 5 ปี และให้คุมความประพฤติภายในกําหนดระยะเวลาดังกล่าว โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติปีละ 2 ครั้ง ให้ทํางานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ คนละ 30 ชั่วโมง ห้ามจําเลยที่ 2-3 กระทําการใดที่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายลักษณะเดียวกับการกระทําความผิดคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยกอ่านข่าว :ศาลให้ประตัว "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" คนละ 2 ล้านติดกําไล EMอัยการสั่งฟ้อง 3 ผู้ต้องหา คดีร้านทอง "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" อ่านต่อ...